
นายวีระวัฒน์ เกิดดี อายุ 39 ปี พร้อมด้วย นายบุญมี เกิดดี อายุ 49 ปี ซึ่งเป็นพี่ชาย ถูกตำรวจ สภ.บางเสาธง รวบตัวได้ภายในห้องเช่าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (13 ก.ย.) ตามหมายจับศาลจังหวัดสมุทรปราการ
พร้อมของกลางแบงก์ห้าร้อยและแบงก์ร้อยปลอม รวมทั้งหมด 18 ใบ โดยมีผู้เสียหายซึ่งส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้านขายของชำที่ตกเป็นเหยื่อ ถูกผู้ต้องหาทั้ง 2 คน หลอกนำแบงก์ปลอมมาซื้อของ จำพวกบุหรี่ เหล้า และเบียร์ ทยอยมาชี้ตัวที่โรงพักกว่า 20 คน
เหตุการณ์เกิดขึ้นตั้งตาช่วยปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาต่อเนื่องถึงปัจจุบัน โดยมีภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะที่ นายวีระวัมน์ ผู้ต้องหา ขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนซื้อของในร้านขายของชำสองแห่งในวันที่ 31 สิงหาคม คือ บริเวณหน้าซอยบางพลีพัฒนา ช่วงเวลา 13.15 น.
จากนั้นได้ไปซื้อของในร้านขายของชำที่หน้าหมู่บ้านแสงตะวันในเวลา 22.00 น.เศษ ๆ วันเดียวกัน จากการสอบสวนเจ้าตัวอ้างแบบข้าง ๆ คู ๆ ว่าไม่รู้เป็นแบงก์ปลอม เพราะเก็บได้บริเวณใต้สะพานบางเสาธง
ขณะที่ นายบุญมี ซึ่งเป็นพี่ชาย ก็บอกว่าไม่รู้ว่ามีแบงก์ปลอมมาอยู่ในกระเป๋าของตัวเองได้อย่างไร เพราะวางไว้ในห้องเช่าและไม่ได้หยิบกระเป๋ามาใช้นานแล้ว และภายหลังสอบปากคำตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การของพี่น้องผู้ต้องหารายนี้ พร้อมเตรียมขยายผลถึงที่มาที่ไปของแบงก์ปลอมทั้งหมด
และผู้ร่วมขบวนการต่อไป
ล่าสุด ตำรวจได้ฝากเตือนไปถึงมิจฉาชีพที่ปลอมแปลงธนบัตรนำมาใช้จ่ายไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตาม ว่าเป็นความทางอาญา มีอัตราโทษสูงสุดจำคุก 15 ปี โดยแบ่งแยกความผิดเป็น 2 กรณี คือ ใช้ธนบัตรปลอม โดยรู้ว่าเป็นของปลอม มีโทษจำคุก 1-15 ปี และปรับ 2,000-30,000 บาท และกรณีได้ธนบัตรปลอม โดยไม่รู้ว่าเป็นของปลอม แต่พอรู้แล้วก็ยังฝืนเอาไปใช้จ่าย มีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
สำหรับร้านที่รับถ่ายเอกสารสีก็ถือว่ามีความผิดด้วยเช่นกัน ซึ่งตำรวจจะดำเนินคดีในข้อหาหนัก แม้ว่าจะเป็นความผิดต่างกรรมต่างวาระก็ตาม ในความผิดมีไว้เพื่อนำออกใช้ซึ่งธนบัตรปลอม อันตนเองรู้อยู่แล้วว่าเป็นธนบัตรปลอม
September 14, 2020 at 07:34AM
https://ift.tt/2FvkpLZ
รวบพี่น้องตระเวนใช้แบงก์ห้าร้อยปลอมซื้อของ มีผู้เสียหายกว่า 20 คน - ช่อง 7
https://ift.tt/2ZllqOm
Bagikan Berita Ini
0 Response to "รวบพี่น้องตระเวนใช้แบงก์ห้าร้อยปลอมซื้อของ มีผู้เสียหายกว่า 20 คน - ช่อง 7"
Post a Comment